ข้อควรรู้ก่อนทำสัญญาเช่าโกดัง
ข้อควรรู้ก่อนทำสัญญาเช่าโกดัง
ในการประกอบธุรกิจบางประเภท ผู้ประกอบการจำเป็นต้องมีพื้นที่เพื่อจัดเก็บสินค้า บางรายที่ไม่มีพื้นที่เป็นของตัวเอง การเช่าก็เป็นทางออกที่สะดวกและรวดเร็ว สำหรับการเช่าโกดังแต่ละครั้ง เรื่องที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าคุณภาพและความปลอดภัยของโกดังก็คือสัญญาเช่า ผู้ประกอบการควรศึกษาสัญญาเช่าให้ถี่ถ้วนเพื่อไม่ให้เกิดข้อเสียเปรียบในภายหลัง ก่อนเซ็นสัญญาควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าในสัญญาระบุข้อมูลดังต่อไปนี้
- ในสัญญาต้องระบุชื่อและที่อยู่ของผู้เช่าและผู้ให้เช่าไว้อย่างชัดเจน ซึ่งส่วนใหญ่จะอ้างอิงตามหน้าบัตรประชาชนหรือเอกสารสำคัญทางบริษัท ไม่ว่าจะเป็นหนังสือรับรองบริษัท ภพ20 เนื่องจากเป็นเอกสารที่จำเป็นต้องใช้ในการทำสัญญาแต่ละครั้ง
- ถัดมา สัญญาเช่าจะต้องระบุสถานที่และวันที่ทำสัญญาเช่า รวมไปถึงระยะเวลาเช่าที่ตกลงกันระหว่างผู้เช่าและผู้ให้เช่า โดยระบุว่าให้ชัดเจนในสัญญาว่าเริ่มทำการเช่าในวันที่เท่าใดและจะสิ้นสุดการเช่าภายในวันที่เท่าใด โดยปกติสัญญาเช่าจะทำเป็นรายปี หากต้องการเช่าระยะนานกว่าหนึ่งปี ผู้เช่าและผู้ให้เช่าควรตกลงกันก่อนและเขียนระบุไว้ในสัญญาด้วย
- ผู้เช่าจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าสัญญาระบุค่าเช่าไว้อย่างชัดเจน โดยระบุครบถ้วนทั้งตัวเลขและตัวอักษร นอกจากค่าเช่า หากมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอื่นๆ เช่น ค่าส่วนกลาง ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ควรจะต้องระบุไว้ในสัญญาด้วยเช่นกันว่าฝ่ายใดเป็นผู้รับผิดชอบ ก็เพื่อป้องกันความสับสนและปัญหาที่อาจตามมาในอนาคต และหากเป็นไปได้ ควรระบุวันที่ครบกำหนดชำระแต่ละเดือนและช่องทางการชำระด้วย
- สัญญาเช่าทีดีควรระบุวัตถุประสงค์ของการเช่า ผู้ให้เช่าและผู้เช่าควรปรึกษากันให้แล้วเสร็จว่าโกดังที่เช่ามีไว้จัดเก็บสินค้าประเภทใดและมีกฎในการใช้งานโกดังอย่างไรบ้าง และสามารถทำการต่อเติมได้หรือไม่ ขอบเขตการต่อเติมอยู่ที่ใด ทั้งนี้ก็เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายเกิดความสบายใจ ผู้ให้เช่ามั่นใจว่าโกดังของตนจะไม่เสื่อมสภาพหรือถูกนำไปใช้งานผิดประเภท ผู้เช่าก็จะได้ดำเนินกิจการของตนได้อย่างราบรื่น ไม่เสียเวลาหรือเสียเงินเพิ่มเติมจากเหตุไม่คาดฝันนอกเหนือจากที่ตกลงกันในสัญญา
- ผู้เช่าควรอ่านให้ถี่ถ้วนว่าสัญญาระบุเกี่ยวกับเงื่อนไขการปล่อยเช่าช่วงไว้อย่างไร สามารถทำได้หรือไม่ ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ผู้เช่าจะสงวนสิทธิไม่อนุญาตให้ผู้ให้เช่าปล่อยเช่าช่วงต่อ แต่หากตกลงกันเป็นอย่างอื่น ก็ควรจะระบุไว้ในสัญญาให้เป็นลายลักษณ์อักษร
- นอกจากที่กล่าวมาแล้ว ในสัญญาจำเป็นต้องมีข้อความกำกับที่ท้ายสัญญาเพื่อยืนยันว่าทั้งสองฝ่ายได้อ่านและทำความเข้าใจสัญญาซึ่งมีเนื้อความตรงกัน และต้องมีช่องเว้นว่างให้ผู้เช่า ผู้ให้เช่า และพยานลงชื่อ
ก่อนทำสัญญาทุกครั้ง ผู้เช่าและผู้ให้เช่าควรตกลงทำความเข้าใจเงื่อนไขข้อตกลงของแต่ละฝ่ายให้ถี่ถ้วน และเมื่อตกลงกันเป็นที่เรียบร้อย ก็ควรจะระบุข้อตกลงทั้งหมดไว้ในสัญญาเพื่อเป็นหลักฐานในอนาคต เพื่อรักษาผลประโยชน์และความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่าย
หากสนใจเช่าโกดังที่คุณภาพสูง ทำเลดี ราคาเป็นกันเอง และสัญญาเป็นธรรม เลือกเช่าโกดังกับเมืองทองเอสเตท ติดต่อเรา Line : @mtproperty โทรศัพท์ : 092-455-3255 / 085-917-4353 / 098-059-8925